"เซาธ์แฮมป์ตัน-เลสเตอร์"
"นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นทีมที่เสียแต้มจากการที่เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ (21 คะแนน)
หาก ธีโอ วัลคอตต์ ทำประตูใส่ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้ จะทำให้เขามีสถิติทำประตูใส่ทีมทีมหนึ่งได้มากที่สุด(6 ประตู) เทียบเท่ากับที่เคยยิงใส่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และเวสต์แฮม ได้
"จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ในการเจอกัน 3 นัดหลังสุด โดยมีประตูรวม 15-2 ซึ่งเมื่อซีซั่นก่อน พวกเขาบุกมาเอาชนะที่ เซนต์ แมร์รี่ส์ ถึง 9-0
อาโยเซ่ เปเรซ ซัดใส่ เซาธ์แฮมป์ตัน ในเกม พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 7 ประตู มากกว่าทีมอื่นๆ โดยกองหน้าสแปนิชเคยทำแฮตทริกใส่ "เดอะ เซนต์ส" 2 ครั้ง
"คริสตัล พาเลซ-แมนฯซิตี้"
คริสตัล พาเลซ จะรู้สึกมีกำลังใจจากข้อเท็จจริงที่ว่า แมนฯ ซิตี้ ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนใน 2 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก มากกว่าก่อนหน้านี้ 23 นัด แต่ขณะเดียวกัน "ดิ อีเกิ้ลส์" ขึ้นนำ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปก่อนเมื่อเกมที่แล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาเป็นฝ่ายแพ้ไป 1-2
10 ประตูของ วิลฟรีด ซาฮา ในฤดูกาลนี้ หากเขาทำได้อีกหนึ่งประตูก็จะทำให้เจ้าตัวทำสถิติพังประตูในลีกต่อซีซั่นมากที่สุดเทียบเท่าสถิติเก่าก่อนหน้านี้ และจะเป็นเพียงผู้เล่น พาเลซ คนที่ 2 เท่านั้นที่สามารถทำประตูแตะเลขสองหลักใน พรีเมียร์ลีก 2 ปีติดต่อจาก ลูก้า มิลิโวเยวิช ที่เคยทำได้
หาก แมนฯ ซิตี้ บุกชนะได้ที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค จะทำให้พวกเขาทำสถิติคว้าชัยเกมเยือน 11 เกมติด เทียบเท่ากับสถิติก่อนหน้านี้ที่ เชลซี และตัวเองเคยทำไว้เมื่อเดือนเมษายน-ธันวาคม ปี 2008 และเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม ปี 2017 ตามลำดับ
ราฮีม สเตอร์ลิง มีส่วนร่วมกับประตู 7 ลูกใน 7 เกมหลังที่ลงเล่นเป็นตัวจริงเจอกับ "ดิ อีเกิ้ลส์" โดยทำได้ 6 ประตู และ 1 แอสซิสต์
ทั้งนี้ถ้า "เรือใบสีฟ้า" ชนะเกมนี้แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ศึกแดงเดือดการตัดสินแชมป์จะจบลงทันที
"เชลซี-ฟูแล่ม"
เชลซี ไม่แพ้เกมในบ้านต่อ ฟูแล่ม ทุกรายการมาแล้ว 18 นัดติดต่อกัน โดยแบ่งเป็นชนะ 10 เสมอ 8
เกม ลอนดอน ดาร์บี้ ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ เชลซี คือทีมที่เก็บชัยชนะได้มากที่สุด(6) เก็บแต้มได้มากที่สุด(19) และทำประตูมากที่สุด(15) ขณะเดียวกันพวกเขายังเป็นทีมที่เสียประตูน้อยสุดอีกด้วย(4)
อย่างไรก็ตาม ฟูแล่ม ไม่แพ้เกม ลอนดอน ดาร์บี้ ในการออกไปเยือนมาแล้ว 3 เกมติดต่อกัน โดยบุกเสมอ สเปอร์ส, คริสตัล พาเลซ และ อาร์เซน่อล
"เจ้าสัวน้อย" ทำประตูขึ้นนำคู่แข่งในเกมเยือน 6 จาก 7 นัดหลังสุด ขณะที่ 64% ของประตูที่ทำได้ทั้งหมดมาจากเกมนอกบ้าน โดยมีแค่ แมนฯ ซิตี้ เท่านั้นที่มีเปอร์เซนต์สูงกว่าในเรื่องการยิงประตูทีมเยือนเมื่อฤดูกาล 2006/07 ที่ 65.5% ของประตูทั้งหมด
"เอฟเวอร์ตัน-แอสตัน วิลล่า"
เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมที่มีอัตราการได้ประตูจากลูกโหม่งมากที่สุดในลีก โดยตัวเลขอยู่ที่ 27.3% ของประตูทั้งหมด ส่วน แอสตัน วิลล่า คือทีมที่อัตราเสียประตูจากลูกโหม่งมากที่สุดด้วยตัวเลข 24.3% ของประตูที่เสีย
"สิงห์ผงาด" เก็บชัยชนะ และทำประตูใส่ เอฟเวอร์ตัน ได้มากที่สุดมากกว่าทีมอื่นๆ โดยเอาชนะได้ 19 ครั้ง และทำประตูได้ 71 ลูก
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เก็บคลีนชีตเกมเยือนได้ถึง 8 นัด มากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้
"นิวคาสเซิ่ล-อาร์เซน่อล"
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แพ้แค่เกมเดียวเท่านั้นจาก 8 นัดหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก (ชนะ 2 เสมอ 5) นอกจากนี้ "สาลิกาดง" ยังทำประตู และเสียประตูได้ตลอดการเล่นในบ้าน 8 เกมหลัง และยังไม่แพ้ใครใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค มาแล้ว 5 นัด(ชนะ 2 เสมอ 3)
อย่างไรก็ดี สถิติของ อาร์เซน่อล ในการเจอ นิวคาสเซิ่ล ข่มกันแบบขาดมิด โดยเอาชนะได้ 15 นัดจาก 16 เกมหลังสุดที่เจอกัน
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง มีสิทธิ์เตรียมเป็นผู้เล่นคนแรกของ อาร์เซน่อล ที่ทำประตูใส่ทีมหน้าเดิมได้ 5 นัดติดต่อกันทุกรายการ ต่อจาก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่เคยทำประตูใส่ แอสตัน วิลล่า 6 เกมติดช่วงระหว่างปี 2013 ถึงปี 2016
"แมนฯ ยูไนเต็ด-ลิเวอร์พูล"
"แดงเดือด" 15 นัดหลังสุดจากทุกรายการที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เจ้าถิ่นปราชัยแค่ครั้งเดียวเท่านั้น(ชนะ 10 เสมอ 4) และนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2014 ลิเวอร์พูล ไม่เคยบุกมาชนะที่นี่ได้เลยเป็นจำนวน 8 เกมเข้าให้แล้ว
มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง 5 ลูกจาก 4 เกมหลังที่ โรงละครแห่งความฝัน ในการเจอกับ "หงส์แดง" ทุกรายการ โดยทำได้ 4 ประตู กับ 1 แอสซิสต์
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดเดียวจาก 9 เกมหลังในลีก
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล มองหาชัยชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้ 6 นัดไม่สามารถเอาชนะได้เลย(เสมอ 4 แพ้ 2) ซึ่ง "ปีศาจแดง" เป็นทีมที่ คล็อปป์ ไม่สามารถบุกชนะได้เลยด้วยจำนวนนัดมากที่สุดในชีวิตอาชีพผู้จัดการทีม
หาก "ปีศาจแดง" พลาดท่าพ่ายคารังในเกมนี้แล้วแมนฯ ซิตี้เอาชนะได้ในเกมวันเสาร์ "เรือใบสีฟ้า" จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทันที
"สเปอร์ส-เชฟฯ ยูไนเต็ด"
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มองหาชัยชนะไป-กลับในเกมพรีเมียร์ลีก เหนือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ให้ได้เป็นครั้งแรก โดยเกมแรก "ไก่เดือยทอง" เอาชนะมาได้ 3-1 ที่ บรามอลล์ เลน
สเปอร์ส ทำได้อย่างน้อยหนึ่งประตูตลอด 10 นัดหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดที่พวกเขาทำได้
เกมล่าสุดที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ไบรท์ตัน มาได้ 1-0 นับเป็นชัยชนะครั้งแรกนับตั้งแต่ที่พวกเขาตกชั้นอย่างเป็นทางการ และมองหาชัยชนะ 2 เกมติดต่อกันให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2020
เดวิด แม็คโกลดริก กองหน้า "เดอะ เบลด" ทำประตูในเกมลีกซีซั่นนี้คิดเป็น 39% ของจำนวนประตูทั้งหมดที่ต้นสังกัดทำได้ ซึ่งเป็นอัตรามากสุดในลีก ขณะที่ แฮร์รี่ เคน ตามมาเป็นลำดับสองด้วยตัวเลข 38%
CR. siamsport อัพเดทข่าวกีฬาได้ที่นี่ https://bit.ly/3kU1rPB
อัพเดทก่อนใครทั้งสถิติ ผลบอล วิเคราะห์บอล และผลการเเข่งขัน ไปพร้อมกับราคาค่าน้ำดีที่สุด มากที่สุดไปกับเรา ห้ามพลาด !
เท่านั้น! สอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3ef2AMA
****สมัครสมาชิกรับโบนัส 50 ฟรีสปิน***
ติดต่อเจ้าหน้าที่ 24 ชั่วโมง
Add line : @1XSUPPORT : https://line.me/R/ti/p/%40616ybwhk
ไลน์สำรอง LINE ID: @1xchat หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/%401xchat
โพสต์โดย : Kate Hoffmeyer เมื่อ 4 พ.ค. 2564 21:17:49 น. อ่าน 296 ตอบ 0